STORAGE AND CARE GUIDE
คู่มือการจัดเก็บผลิตภัณฑ์ และวิธีการดูแลรักษา
กระเบื้องยาง FLOORAMENT ควรเก็บไว้ในสถานที่โล่งโปร่งสบายไม่มีอะไรกดทับบีบอัดในกล่องหรือบรรจุภัณฑ์ดั้งเดิม ควรตั้งวางวัสดุในที่แห้งสะอาดและมีอากาศถ่ายเทสะดวก ไม่ควรเก็บของใต้ห้องหลังคา ห้องที่มีอากาศร้อนอบอ้าว ห้องที่รับแสงแดดตลอดวัน หรือห้องที่อับชื้น ให้แน่ใจว่าสถานที่จัดเก็บจะมีอุณหภูมิคงที่ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิเกินกว่า 10% ของอุณหภูมิปกติ หรือไม่สูงเกิน 35 OC. หลีกเลี่ยงการเก็บในสถานที่มีความชื้นสูงและ / หรือการควบแน่น ปริมาณความชื้นสัมพัทธ์ในสถานที่จัดเก็บควรอยู่ระหว่าง 40-75% เส้นเชื่อม FLOORAMENTWeld ที่ใช้สำหรับเชื่อมร้อนควรเก็บไว้ในสถานที่เดียวกันกับพื้นกระเบื้องยางไวนิลในบรรจุภัณฑ์เดิมและไม่ควรเปิดก่อนการใช้งาน หากเก็บไว้ในห้องที่มีเครื่องทำความร้อน กระเบื้องยางไวนิลควรได้รับการปกป้องจากแหล่งกำเนิดความร้อน ระยะห่างระหว่างแหล่งความร้อนและผลิตภัณฑ์ที่เก็บควรห่างกันอย่างน้อย 1 เมตร

ผลิตภัณฑ์ควรได้รับการปกป้องจากแสงแดด และแสงประดิษฐ์ที่มีระดับรังสียูวีสูง พยายามหลีกเลี่ยงการจัดเก็บในพื้นที่แดดส่องตลอดเวลา
ผลิตภัณฑ์ไม่ควรถูกกดทับ กระแทก หรือการบีบอัดต่างๆ ระหว่างการจัดเก็บเพื่อป้องกันการเสียรูปถาวร การฉีกขาด และการแตกหัก

การจัดเก็บที่ถูกต้อง และการจัดวางกระเบื้องยางอย่างเหมาะสมจะช่วยรักษาคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์และยืดอายุการใช้งานได้มากขึ้น ในกรณีที่เก็บผลิตภัณฑ์ไว้นานโดยยังไม่ได้ติดตั้ง (มากกว่าหนึ่งปี) แนะนำให้ทดสอบการยึดเกาะก่อนติดตั้งผลิตภัณฑ์ ควรใช้ม้วนจากชุดที่ผลิตพร้อมกัน และมีหมายเลขล็อตเดียวกันสำหรับสถานที่เดียวกันเท่ากัน

ก่อนการติดตั้งพื้นตรวจสอบพื้นผิวเบื้องต้นด้วยสายตาของคุณเพื่อดูลักษณะทั่วไปของสีและพื้นผิวว่าพร้อมติดตั้งแน่นอนหรือไม่ หากคุณต้องการติดตั้งเองและไม่มั่นใจเรื่องพื้นผิวเดิมสามารถติดต่อสอบถามได้ที่แผนกติดตั้งของเรา FLOORAMENT 02-295-1588

สุดท้ายนี้ เราอยากให้คุณตรวจสอบผลิตภัณฑ์ที่ได้รับ และตรวจตราพื้นผิวก่อนติดตั้งให้เรียบร้อย เพราะบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบค่าสินค้า ค่าแรงเพิ่มเติมหรือค่าใช้จ่ายใด ๆ อันเกิดจากการเก็บรักษา การขนย้ายผลิตภัณฑ์ที่ไม่ถูกต้อง ตลอดจนการติดตั้งที่ผิดพลาด

คู่มือการติดตั้งกระเบื้องยาง FLOORAMENT



การติดตั้ง 
ตรวจสอบพื้นผิวเดิมก่อนก่อนติดตั้ง

คุณต้องต้องตรวจสอบจนมั่นใจในคุณภาพที่เหมาะสมของพื้นผิวเดิมก่อนการติดตั้ง พื้นเดิมต้องสะอาดเรียบเนียนแห้งสนิทปราศจากรอยร้าว ความชื้น และสิ่งปนเปื้อนใด ๆ ที่อาจส่งผลต่อการยึดเกาะ (เช่น คราบสี, น้ำมันจารบี, ฝุ่นผง, เศษปูน หรือคราบกาว) แข็งแรงทนทานต่อการกดทับและแรงตึงในอนาคต ในกรณีของพื้นคอนกรีต ปริมาณความชื้นไม่ควรเกิน 2.5% หรือเต็มที่ 5% ควรมีการทำระบบกันซึมก่อนการติดตั้ง หากความชื้นพื้นเดิมเกิน 5% อย่าเริ่มการติดตั้งก่อนที่จะต่ำกว่า 5% อย่างเด็ดขาด ขอแนะนำให้ตรวจสอบสภาพของพื้นผิวเดิมโดยทำการทดสอบและตรวจวัดค่าความชื้นก่อนทำการติดตั้งพื้น ตรวจสอบระดับพื้นผิว (โดยใช้ไม้บรรทัดหรือเลเซอร์วัด) ปราศจากรอยแตกร้าวอันเกิดจากน้ำหรือความชื้น (ใช้ไฮโดรมิเตอร์) และความแข็งแรงของพื้นผิว (ทดสอบรอยขีดข่วน) บันทึกผลการทดสอบที่ได้รับ อุณหภูมิใต้พื้นผิวโดยตรงก่อนการติดตั้งพื้นควรอยู่ระหว่าง + 15oC ถึง + 30oC



การเตรียมพื้นผิวใหม่

เตรียมพื้นคอนกรีตใหม่ด้วยปูนซีเมนต์และทำความสะอาดให้เรียบร้อย ในกรณีที่ใช้พื้นยิบซั่มบอร์ดต้องไม่ลืมตกแต่งรอยต่อระหว่างแผ่นด้านบนให้เรียบเนียน ในกรณีที่มีพื้นพรมและพื้นยางเดิมให้ทำการรื้นพื้นเดิม ทำความสะอาดคราบกาว ตกแต่งรอยแตกและร่องต่างๆ ก่อนที่จะติดตั้งใหม่ หากติดตั้งบนกระเบื้องยางพีวีซีเดิมหรือกระเบื้องเซรามิกให้ทำความสะอาดพื้นผิวอย่างละเอียดโดยการขัดถูและดูดฝุ่นตกแต่งร่องรอยต่อของกระเบื้องแต่ละแผ่นให้เรียบเนียน และใช้สารประกอบไพรเมอร์ที่ได้มาตรฐานในการเตรียมพื้นผิว

หากมีการติดตั้งพื้นใหม่บนพื้นไม้หรือพื้นลามิเนตที่มีอยู่ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าพื้นไม้ได้รับการตกแต่งให้เรียบเนียน ไม่บวม ไม่หดตัวและแห้งสนิทแล้ว พื้นผิวควรจะถูกขัดและทำความสะอาดจากฝุ่นละออง เคลือบแต่งผิวให้เรียบเนียนปราศจากรอยต่อใดๆ ผลิตภัณฑ์มาตรฐานสำหรับการติดตั้ง เราขอแนะนำแบรนด์ Henkel Thomsit ซึ่งสามารถแทนที่ได้ด้วยผลิตภัณฑ์ของแบรนด์อื่นที่มีคุณสมบัติทางเทคนิคคล้ายคลึงกันตามแต่คุณสะดวก ขั้นตอนการเตรียมพื้นผิวก่อนติดตั้งสามารถเลือกใช้ตัวรองพื้น (Primer) รุ่น Thomsit R 777 เจือจางด้วยน้ำครึ่งหนึ่ง ใช้ตัวรองพื้นโดยไม่ต้องเจือจางบนพื้นผิวเดิม กลิ้งด้วยฟองน้ำและปล่อยให้แห้งเป็นเวลา 24 - 48 ชั่วโมง จากนั้นใช้Thomsit R 766 เจือจางด้วยน้ำครึ่งหนึ่งเพื่อเคลือบรักษาพื้นผิวให้แข็งแรงและหนาแน่น ตัวรองพื้นจะดักจับฝุ่นที่เหลืออยู่ปิดรูพรุน ในคอนกรีตและปรับแต่งผิวสัมผัสให้เนียนเรียบ หลังจากที่ตัวรองพื้นถูกดูดซับอย่างสมบูรณ์แล้วพื้นผิวจะต้องปรับระดับอีกครั้งโดยใช้สารประกอบปรับเรียบ (Self-leveling compound Thomsit) เมื่อเลือกสารตัวปรับระดับให้คำนึงถึงการใช้งาน และระยะเวลาที่กำหนดในการติดตั้งพื้นอย่างถี่ถ้วน ผสมสารประกอบปรับเรียบกับน้ำตามคู่มือการใช้งานแล้วเกลี่ยให้เรียบบนพื้นผิวด้วยเกรียง ไล่ฟองอากาศในพื้นเป็นครั้งคราวด้วยลูกกลิ้งที่ หลังจากที่พื้นผิวแห้งสนิทแล้วควรขัดให้เรียบอีกครั้ง และทำความสะอาดให้ปราศจากผงและฝุ่นละออง

กระเบื้องยาง FLOORAMENT สามารถใช้งานได้กับระบบทำความร้อนใต้พื้น

หากใช้ระบบทำความร้อนใต้พื้นจะต้องเปิดเครื่องอย่างน้อย 4 สัปดาห์ก่อนการติดตั้งพื้นใหม่ จากนั้นจึงปิดระบบทำความร้อนใต้พื้น 24 ชั่วโมงก่อนเริ่มงาน เมื่อติดตั้งพื้นเสร็จแล้วทิ้งไว้อย่างน้อย 48 ชั่วโมง จึงเริ่มเปิดสวิตช์ทำความร้อนอีกครั้ง เพิ่มอุณหภูมิอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะถึงค่าอุณหภูมิปกติที่ต้องการในเวลาประมาณ 5 วัน ขณะที่ใช้เครื่องทำความร้อนใต้พื้นอุณหภูมิของพื้นผิวเดิมข้างใต้จะต้องไม่เกิน 28oc

ในกรณีที่ติดตั้งกระเบื้องยาง FLOORAMENT พื้นผิวเดิมก่อนการติดตั้งที่ดี ได้แก่
•คอนกรีต / ปูนซิเมนต์
•แผ่นยิปซั่ม
•ไม้อัดเรียบ
•กระเบื้องหินชนิดต่างๆ
•กระเบื้องยาง

ไม่ควรติดตั้งกระเบื้องยาง FLOORAMENT ของเราบนพื้นผิวอะไร
•พรม
•พื้นนุ่มมากเป็นพิเศษ
•ไม้ปาร์เก้ ยกเว้นคุณคิดว่าไม่เสียดายพื้นไม้นี้แล้ว
•พื้นลามิเนตหรือพื้นอื่นๆที่ง่ายต่อการบวม หด-ขยาย
•พื้นยางมะตอย และพื้นขรุขระ



การติดตั้งกระเบื้องยาง FLOORAMENT

หากพบว่าความชื้นของพื้นผิวเดิมก่อนการติดตั้งอยุ่ระหว่าง 2.5-5CM% เราแนะนำให้ทำกันซึมและปรับความชื้นก่อน หากความชื้นในพื้นต่ำกว่า 2.5% ก็สามารถเริ่มงานติดตั้งได้ทันที อย่าลืมขนย้ายกระเบื้องยางไวนิลที่ออกมาอยู่ในห้องที่มีอุณหภูมิขั้นต่ำอย่างน้อย 18oC เป็นเวลาหนึ่งวันก่อนการติดตั้ง

การติดตั้ง FLOORAMENT
กระเบื้องยาง FLOORAMENT ชนิดม้วน ควรแกะออกจากม้วนและกางคลี่ทิ้งไว้ในห้องเป็นเวลา 1 วันก่อนการติดตั้ง กระเบื้องยางที่ใช้ควรมีหมายเลขการผลิตล็อตเดียวกันสำหรับการติดตั้งในสถานที่เดียวกันเพื่อป้องกันปัญหาสีผิดเพี้ยน ดูสัญญลักษณ์ทิศทางการวางม้วนได้จากพื้นหลังของกระเบื้องยาง

เทคนิคลับเฉพาะ หากคุณติดตั้งเอง : ควรติดตั้งกระเบื้องยาง FLOORAMENT แบบม้วนตามทิศทางของแสงอาทิตย์ที่ตกลงบนพื้น แล้วเตรียมประทับใจกับพื้นใหม่ของคุณได้เลย

วิธีการติดกาว
เราแนะนำให้ใช้กาวแบบ Low emission และไม่มีสารทำละลายกับกระเบื้องยาง FLOORAMENT สามารถยึดติดได้กับกาวทั้ง 2 ประเภท คือ ALL-Purpose สำหรับงานทั่วไป และ CONTACT Gluing สำหรับการใช้งานหนัก

1. ALL-Purpose Gluing (Low Traffic)
แนะนำให้ใช้กาวอะคริลิค หรือแบบอิมัลชัน กาวควรเก็บไว้ในสภาพแวดล้อมที่ไม่มีความชื้นมาก และเก็บในสถานที่มีอุณหภูมิขั้นต่ำ 18oC เป็นเวลา 1 วันก่อนการติดตั้ง ผสมกาวให้ทั่วก่อนใช้

ปาดกาวให้ทั่วโดยใช้เกรียงหวีขนาด A3 หรือ B1 รักษาปริมาณการใช้กาวอยู่ที่ 300-400 g / m2

ปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ผลิตกาวเกี่ยวกับปริมาณที่เหมาะสม และเวลาในการแห้งของกาว ระยะเวลาเปิดกาวที่สั้นทำให้เกิดฟองอากาศ ขณะที่เปิดทิ้งไว้นานเกินไปก็ลดประสิทธิภาพในการยึดติดของกาว

กาวที่แนะนำ: Henkel Thomsit UK 400, Mapei Ultra / Bond ECO 350, F-Ball F / 44

2. CONTACT GLUING (Medium – High Traffic)
แนะนำให้ใช้ CONTACT GLUING สำหรับพื้นผิวที่เสี่ยงต่อความชื้น หรือพื้นซีเมนต์ใหม่ที่ไม่ผ่านการใช้งาน

ทากาวลงบนพื้นและเกลี่ยให้ทั่วโดยใช้เกรียง A2 หรือ A4 และรักษาปริมาณการปาดกาวไว้ที่ประมาณ 200-250 g / m2 ปล่อยให้กาวระเหยออกจนหมด สังเกตว่ากาวจะเปลี่ยนสีจากทึบแสงเป็นสีเหลืองใส หลังจากใช้เวลาประมาณ 60-90 นาทีทดสอบด้วยนิ้วของคุณและถ้ากาวไม่เหนียวติดอีกต่อไปจึงสามารถเริ่มการวางกระเบื้องยางได้

กาวที่แนะนำ: กาวอะคริเลตจากน้ำเช่น Thomsit K 188E, Uzin KE 2000S หรือเทียบเท่ายี่ห้ออื่น ๆ

3. กาวที่หาง่ายที่สุดและเป็นที่นิยมมากที่สุด ได้แก่ กาวยาง
กาวที่แนะนำ: กาวยาง DUNLOP

ในกรณีของกระเบื้องยาง FLOORAMENT แบบม้วน

เริ่มวางแผ่นพื้นด้านหลังครึ่งหนึ่งลงบนพื้นที่ทากาว พยายามไล่ฟองอากาศด้านใต้ม้วนกระเบื้องยางเพื่อให้แน่ใจว่าเมื่อปูเสร็จแผ่นยางจะไม่มีรอยนูนของฟองอากาศ และลดโอกาสโป่งพองหลุดร่อนของกระเบื้องยาง จากนั้นใช้ลูกกลิ้งขนาด 50-60 กก. กลิ้งไปบนพื้นที่ติดตั้งทำซ้ำตามลำดับ ทำแบบนี้กับด้านที่เหลือจนครบเต็มม้วน จนพื้นกระเบื้องยางทั้งหมดเรียบเนียนสวยงาม

ในกรณีของกระเบื้องยาง FLOORAMENT แบบแผ่น

กระเบื้องยางแบบแผ่นควรติดตั้งขนานไปกับแนวแหล่งกำเนิดแสงหลักซึ่งโดยปกติจะเป็นด้านที่ยาวกว่าของห้อง กำหนดตำแหน่งที่จะเริ่มต้นการติดตั้งแผ่นกระเบื้องยางอย่างระมัดระวัง ใช้เส้นอ้างอิงกึ่งกลาง ตรวจสอบให้แน่ใจว่าตัดขอบกระเบื้องยางได้คมและชิดกับผนังสวยงาม

หากต้องมีการตัดลวดลายบนพื้น ให้วัดขนาดของห้องและทำเครื่องหมายเส้นเริ่มต้นของการติดตั้ง ระยะทางของเส้นเริ่มต้นจากส่วนที่ลึกที่สุดของผนังควรมีความกว้างขั้นต่ำไม่น้อยกว่าขนาดของกระเบื้องยาง 2-3 ซม. ทากาวบนพื้นผิวเดิม 3-4 รอบในเวลาเดียวกันและรอจนกว่ากาวจะแห้ง

เริ่มต้นวางกระเบื้องยางแผ่นล่าง ตามด้วยแผ่นถัดไปวางขอบให้ชิดสนิทกัน หากขนาดเกินกว่าพื้นที่ให้ทำเครื่องหมายและตัดกระเบื้องยางส่วนเกินออกให้พอดีกับกำแพง ส่วนที่เหลือของกระเบื้องยางที่ถูกตัดออกมาสามารถมาใช้เพื่อเริ่มแถวใหม่ถัดไปได้หากมีขนาดอย่างน้อย 20 ซม. เมื่อชิ้นสุดท้ายในแถวเป็นกระเบื้องเต็มแผ่น ให้เริ่มต้นแถวถัดไปด้วยชิ้นส่วนที่มีความยาวตั้งแต่ 20 ซม.ขึ้นไป คุณสามารถแบ่งครึ่งกระเบื้องยางติดตั้งเข้ากับผนัง วางแต่ละแผ่นให้ติดชิดกัน และกดให้ติดแน่นกับกาว ส่วนขอบผนังหรือบริเวณที่ต้องการความเรียบร้อยสามารถใช้ใช้ซิลิโคนซีลเชื่อมระหว่างร่องต่างๆ ได้

เส้นเชื่อม

การเชื่อม (ในกรณีที่มีการปูพื้นกระเบื้องยางไวนิลแบบแผ่น) สามารถดำเนินการได้หลังการติดตั้งไม่น้อยกว่า 24-48 ชั่วโมงขึ้นอยู่กับชนิดของกาวที่ใช้

การเชื่อมความร้อน
การใช้งานของการเชื่อมความร้อนเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับพื้นผิวที่เปียกหรือมีความชื้นสูงและสถานที่ที่มีเครื่องทำความร้อนใต้

สำหรับลูกค้าที่เลือกใช้พื้นกระเบื้องยางไวนิลที่ต้องมีการเชื่อมร้อน เราแนะนำให้คุณติดต่อทีมช่างผู้เชี่ยวชาญของเราเพื่อประสบการณ์การใช้งานที่ยอดเยี่ยมกว่า ติดต่อแผนกติดตั้งพื้นกระเบื้องยาง FLOORAMENT โดยบริษัท ทินมาพลาสติกอุตสาหกรรม จำกัดที่ 02.295.1587 - 9

การเชื่อมเย็น
การเชื่อมด้วยความเย็นเป็นอีกเทคนิคหนึ่งที่ใช้กันทั่วไปในการติดตั้งกระเบื้องยางแบบม้วน วิธีนี้ช่วยให้มั่นใจว่าปิดรอยต่อของกระเบื้องยางแต่ละม้วนได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย เหมาะอย่างยิ่งสำหรับพื้นกระเบื้องยางแบบม้วนที่มีรอยต่อไม่ใหญ่มาก หรือต้องการความเรียบเนียนของแต่ละม้วน

เทคนิคการเชื่อมเย็น
1. วางกระเบื้องยางแต่ละม้วนเพื่อให้ทับซ้อนกันประมาณ 3-5 ซม. ตัดส่วนเกินออกด้วยไม้บรรทัดเหล็กและใบมีดคัตเตอร์
2. ติดเทปกาวบริเวณรอยต่อของกระเบื้องยางทั้งสองม้วนแล้วกดให้แน่นด้วยลูกกลิ้ง
3. กรีดเทปกาวตรงบริเวณร่องรอยต่อของกระเบื้องยางทั้งสองม้วนให้เรียบเนียนสวยงาม
4. เขย่าหลอดกาวเชื่อมเย็นก่อนการใช้งาน กดปลายหัวของหลอดเชื่อมเย็นลึกเข้าไปในร่องเทปกาวที่ได้กรีดไว้แล้ว บีบกาวเชื่อมเย็นให้ได้เส้นความกว้างประมาณ 5 มม. ทิ้งไว้ในร่องเทปกาวเป็นเวลา 10 นาทีจึงดึงเทปกาวออก

แนะนำกาวเชื่อมเย็น :
Werner Mueller cold welding paste Type A สำหรับการเชื่อมรอยต่อกระเบื้องยางใหม่และ Type C เพื่อซ่อมแซมรอยต่อพื้นผิวเดิม

สำหรับเทคนิคการเชื่อมเย็นแบบละเอียดสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ www.mueller-pvc-naht.de

CLEANING AND MAINTENANCE
GENERAL NOTES
ขั้นตอนการทำความสะอาด และวิธีบำรุงรักษา

การทำความสะอาดและบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญเพื่อความทนทานและรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดใจของพื้นคุณ ระยะเวลาการบำรุงรักษาพื้นขึ้นอยู่กับการใช้งานหรือปริมาณการจราจรเป็นหลัก การทำความสะอาดเป็นประจำ (รายวัน) และการบำรุงรักษาตามระยะเวลาเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้งาน นอกเหนือจากผลิตภัณฑ์บำรุงรักษามาตรฐานที่ได้รับการรับรองตามที่ระบุไว้ในคู่มือนี้แล้ว น้ำยาทำความสะอาดอื่น ๆ ที่คุณสมบัติใกล้เคียงกัน (สูตรทางเคมีและค่า pH) ก็สามารถใช้งานทดแทนได้กับพื้นของเรา สิ่งที่ควรระวังมีแค่ห้ามใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่อาจทำลายพื้นผิว เช่น น้ำยาทำความสะอาดที่มีฤทธิ์กัดกร่อน เป็นกรด หรือผงซักฟอกที่ใช้ตัวทำละลายอินทรีย์ น้ำยาล้างห้องน้ำ หากไม่แน่ใจในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดตัวไหนสามารถติดต่อเข้ามาที่ แผนกติดตั้ง FLOORAMENT บริษัททินมาพลาสติกอุตสาหกรรม จำกัด 02.295.1587-9 เพื่อขอคำแนะนำก่อนการทำความสะอาดได้

การทำความสะอาดพื้นฐานทั่วไป

ขจัดสิ่งสกปรกออกจากพื้นผิวด้วยการกวาดหรือทำความสะอาดเครื่องดูดฝุ่น
เครื่องมือ: ผงซักฟอกสำหรับทำความสะอาดอัลคาไลน์, เครื่องทำความสะอาดแบบโมโนดิสก์พร้อมแผ่
นสีแดงและอุปกรณ์กวาดพื้น

การลงน้ำยาทำความสะอาดขั้นพื้นฐาน / ระยะเวลา
• น้ำยาทำความสะอาดควรผสมและถูกลงกระจายไปบนพื้นผิวของพื้นที่ครั้งละไม่เกิน 5 - 10 ตารางเมตร และควรทำความสะอาดหลังจากลงน้ำยาในเวลาไม่เกิน 10 – 15 นาที เพื่อให้พื้นผิวได้ดูดซึมน้ำยาทำความสะอาดอย่างเต็มที่ และควรล้างด้วยน้ำสะอาดเป็นรอบสุดท้าย ก่อนถูซับน้ำให้แห้งทุกครั้ง

• ควรทำความสะอาดแบบปกติเป็นประจำทุกวัน และแบบพิเศษ (ขัดเคลือบเงา ลง WAX) ตามความถี่ของการใช้งาน

การรักษาทำความสะอาดประจำวัน
ขจัดฝุ่นและสิ่งสกปรกออกจากพื้นผิวด้วยการกวาดหรือทำความสะอาดด้วยเครื่องดูดฝุ่น จากนั้นจึงทำความสะอาดแบบเปียกด้วยด้วยการถูโดยใช้ม๊อบดันฝุ่น/ไม้ถูพื้น หรือใช้เครื่องขัดอัตโนมัติ - เครื่องขัดอัตโนมัติ (แผ่นขัดพื้นสีขาว)

ทำความสะอาดด้วยตนเองด้วยตนเอง:
การใช้ม๊อบดันดันฝุ่น
• ควรลงน้ำยาดันฝุ่นทิ้งไว้ 2 – 3 ชม.
• ระหว่างทำการถูดันฝุ่นไม่ควรฉีดน้ำยาซ้ำ
• เมื่อถูดันฝุ่นเสร็จ ควรดูดหรือกำจัดฝุ่นออกจากผ้าถูทุกครั้ง ไม่ควรสะบัด หรือกระแทกผ้ากับพื้นอันจะทำให้ฝุ่นฟุ้งกระจาย
• การซักผ้าถูพื้น ควรเอาออกไปตากแดดเพื่อให้น้ำยาดันฝุ่นระเหยก่อนการซัก
• การใช้น้ำยาดันฝุ่นทำความสะอาด จะมีผลให้พื้นลื่นขึ้นกว่าปกติ

การใช้ม๊อบถูพื้น หรือการขัดถูพื้นทั่วไป
• ผสมน้ำยาทำความสะอาดตามอัตราส่วนที่กำหนด
• บิดและล้างผ้าม๊อบถูพื้นบ่อยๆ
• ตีกรอบเพื่อจะกำหนดบริเวณที่ต้องการทำความสะอาด
• ขัดถูพื้นเป็นรูปเลข 8 (เดินถอยหลัง) เพื่อเก็บรอยรวมถึงสิ่งสกปรกต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะเส้นผม

เครื่องมือ : ไม้ม๊อบถูพื้น, ผ้าถูพื้น (แนะนำผ้าไมโครไฟเบอร์ดีที่สุด), น้ำยาทำความสะอาด (โดยทั่วไปสามารถใช้น้ำยาถูพื้น หรือผงซักฟอกที่เป็นกลางหรือเป็นด่างอ่อน, ห้ามใช้น้ำยาล้างห้องน้ำ หรือน้ำยาทำความสะอาดที่มีฤทธิ์เป็นกรดทุกชนิด)

การทำความสะอาดแบบเปียกด้วยเครื่องจักร:
ดูแลประจำวันไม่ขัดเคลือบเงา (WAX)
• ใช้เครื่องขัดพื้นทั่วไปร่วมกับ แผ่นผ้าบอนเน็ตสีเทาขาวสำหรับงานเช็ดเก็บฝุ่นและปัดเงาพื้น (Spray Oil และ Spray Buff)
• ใช้เครื่องขัดมือ (เลือกแผ่นขัดเงาขนหมู, แผ่นดิสก์ขาว, แผ่นขัดสีขาว) กับน้ำยาทำความสะอาดที่เป็นกลางหรือเป็นด่างอ่อน ห้ามใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีฤทธิ์เป็นกรดและกัดกร่อนใดๆ ที่เสี่ยงต่อการทำลายพื้นผิว
• ใช้ยางรองขาเฟอร์นิเจอร์เพื่อหลีกเลี่ยงการเปลี่ยนสีของพื้นจากการลากถูขณะทำความสะอาด

บำรุงรักษาแบบพิเศษ (ขัดเคลือบเงา – ลง WAX)
• หากมีการขัดเคลือบเงาก่อนหน้าให้ขัดลอกผลิตภัณฑ์เคลือบเงาเดิม (WAX) ออกให้หมดโดยใช้น้ำยาลอก และเครื่องขัดล้างเลือกแผ่นขัดสีดำ – แผ่นขัดพื้นรอบต่ำ (ความเร็ว 175 – 600 รอบ/นาที)
• เช็ดคราบน้ำยาเก่าออกให้สะอาด ขัดถูพื้นด้วยเครื่องขัดแผ่นขัดสีแดงหรือสีขาวตามด้วยน้ำสะอาดหลายๆครั้งกระทั่งหมดน้ำยาขัดเคลือบเดิม
• เมื่อพื้นแห้งสนิทดี ใช้เครื่องขัดแผ่นขัดสีขาวกับน้ำยาทำความสะอาดฤทธิ์เป็นกลางหรือด่างอ่อนขัดทั่วบริเวณ พร้อมดันฝุ่น
• ลงน้ำยารองพื้นสำหรับขัดเคลือบเงา 1 รอบทิ้งไว้ให้แห้งประมาณ 30 – 60 นาที
• ปฏิบัติตามกรรมวิธีขัดเคลือบเงา โดยทิ้งไว้ให้แห้ง 30 – 60 นาทีหลังจากขัดเคลือบเงารอบแรก
• ทำการลงน้ำยาขัดเคลือบเงาซ้ำอีกประมาณ 3 รอบ ทิ้งไว้ให้แห้งสนิทประมาณ 12 – 24 ชม. ก่อนการใช้งาน
เครื่องมือ : เครื่องขัดพื้นอัตโนมัติแบบมือจับ (โดยทั่วไปสามารถใช้น้ำยาถูพื้น หรือผงซักฟอกที่เป็นกลางหรือเป็นด่างอ่อน, ห้ามใช้น้ำยาล้างห้องน้ำ หรือน้ำยาทำความสะอาดที่มีฤทธิ์เป็นกรดทุกชนิด), แผ่นขัดพื้นสีขาว – แผ่นขัดพื้นรอบต่ำ (ความเร็ว 175 – 600 รอบ/นาที), แผ่นขัดสีแดง – แผ่นขัดพื้นรอบต่ำ (ความเร็ว 175 – 600 รอบ/นาที)

แนะนำอุปกรณ์และเครื่องมือ
1. ผ้าม็อบเปียกไมโครไฟเบอร์
2. แผ่นผ้าบอนเน็ต Bonnet Pad Grey-White สีเทาขาว สำหรับ Stripping Pad สีดำ (ความเร็วรอบ 175 – 600 รอบ/นาที) สำหรับขัดล้างด้วยน้ำ พื้นผิวที่สกปรกมาก การล้างลอกแว็กซ์เก่างานเก็บฝุ่น (Spray Oil) และน้ำยาปัดเงาพื้น (Spray Buff)
3. แผ่นขัดเงา 3M White Super Polish Pad สีขาว (ความเร็วรอบ 175 – 600 รอบ/นาที) สำหรับขัดเงาพื้นทั่วไป สกปรกไม่มาก เน้นรักษาพื้นที่เคลือบเงา
4. แผ่นขัดเงา 3M Red Buffing Pad สีแดง (ความเร็วรอบ 175 – 600 รอบ/นาที) สำหรับงานขัดเงา ลบรอยเปื้อนและรอยขีดข่วนระดับกลาง ไม่ทำลายเคลือบเงาพื้นเดิม แนะนำใช้ร่วมน้ำยาปัดเงาพื้น (Spray Buff)
5. แผ่นขัดล้าง 3M Black